Sec 1246: Difference between revisions
From Thai Codification Book III of 1925
Main>Codesuser Created page with "====== '''มาตรา 1246''' ====== * (๑) เมื่อใดนายทะเบียนบริษัทมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่า บริษัทใดมิได้ทำการค้าขาย ฤๅประกอบการงารแล้ว ท่านให้นายทะเบียนมีจดหมายส่งทางไปรษณีย์ไปยังบริษั..." |
m 1 revision imported |
(No difference)
|
Latest revision as of 06:41, 27 December 2024
มาตรา 1246
- (๑) เมื่อใดนายทะเบียนบริษัทมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่า บริษัทใดมิได้ทำการค้าขาย ฤๅประกอบการงารแล้ว ท่านให้นายทะเบียนมีจดหมายส่งทางไปรษณีย์ไปยังบริษัทนั้น เพื่อไต่ถามว่ายังทำการค้าขายฤๅประกอบการงารอยู่ประการใด ฤๅหาไม่
- (๒) ถ้านายทะเบียนส่งจดหมายไปแล้วมิได้รับตอบภายในเวลาเดือนหนึ่งไซร้ เมื่อสิ้นเวลาเดือนหนึ่งนั้นแล้ว ภายในสิบสี่วันต่อแต่นั้นไปให้นายทะเบียนมีจดหมายอีกฉบับหนึ่งส่งจดทะเบียนไปรษณีย์ไปยังบริษัท อ้างท้าวความถึงจดหมายฉบับแรกและแถลงว่ายังมิได้รับตอบหนังสือนั้น กับว่าถ้ามิได้รับตอบจดหมายฉบับที่สองนี้ภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันที่ลงในจดหมายนั้นแล้ว จะได้ออกแจ้งความโฆษณาเพื่อการขีดชื่อบริษัทนั้นออกเสียจากทะเบียน
- (๓) ถ้านายทะเบียนได้รับตอบจากบริษัทว่า บริษัทมิได้ทำการค้าขายฤๅประกอบการงารแล้วก็ดี ฤๅมิได้รับตอบจดหมายฉบับที่สองนั้นเปนประการหนึ่งประการใดภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันที่ส่งไปก็ดี นายทะเบียนจะโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ และให้คำบอกกล่าวเปนหนังสือจดทะเบียนไปรษณีย์ไปยังบริษัทก็ได้ ว่าเมื่อล่วงเวลาสามเดือนนับแต่วันบอกกล่าวบริษัทนั้น จะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและจะต้องเลิก เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเปนอย่างอื่น
- (๔) ถ้าในกรณีที่กำลังชำระสะสางบาญชีเลิกบริษัท นายทะเบียนมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่าไม่มีตัวผู้ชำระบาญชีทำการอยู่ก็ดี ฤๅการงารของบริษัทได้ชำระสะสางตลอดแล้ว แต่รายงารแถลงบาญชีอันท่านบังคับไว้ว่าผู้ชำระบาญชีจะพึงต้องทำนั้น ยังมิได้ทำขึ้นสำหรับระยะเวลาหกเดือนอันนับแต่วันนายทะเบียนทำคำบอกกล่าวเรียกเอารายงารบาญชีและส่งทางไปรษณีย์ไปยังบริษัท ฤๅส่งไปยังผู้ชำระบาญชี ณ สถานที่อันปรากฏเปนสำนักงานชั้นที่สุดของเขานั้นก็ดีท่านว่านายทะเบียนจะโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่และส่งคำบอกกล่าวไปยังบริษัทเช่นอย่างที่ได้กล่าวมาในอนุมาตราก่อนนี้ก็ได้
- (๕) เมื่อสิ้นกำหนดเวลาดังจดแจ้งไปในคำบอกกล่าวนั้น แล้วบริษัทมิได้แสดงมูลเหตุมาเปนอย่างอื่นก่อนนั้น ท่านว่านายทะเบียนจะขีดชื่อบริษัทออกเสียจากทะเบียนก็ได้ และในการนี้ให้ออกแจ้งความโฆษณาในหนังสือราชกิจจานุเบกษา และบริษัทนั้นก็ให้เปนอันเลิกกันตั้งแต่เมื่อโฆษณาแจ้งความในหนังสือราชกิจจานุเบกษานั้น แต่ว่าความรับผิดของกรรมการ ของผู้จัดการ และของผู้ถือหุ้นทุก ๆ คนมีอยู่เท่าไร ก็ให้คงมีอยู่อย่างนั้นและพึงเรียกบังคับได้เสมือนดังว่าบริษัทยังมิได้เลิก
- (๖) ถ้าบริษัท ฤๅผู้ถือหุ้น ฤๅเจ้าหนี้ใด ๆ ของบริษัทรู้สึกว่าต้องเสียหายมิเปนธรรมเพราะการที่บริษัทถูกขีดชื่อจากทะเบียนนั้นไซร้ เมื่อบริษัท ฤๅผู้ถือหุ้น ฤๅเจ้าหนี้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลพิจารณาได้ความเปนที่พอแก่ใจว่าในขณะที่ขีดชื่อบริษัทจากทะเบียนนั้นบริษัทยังทำการค้าขายฤๅยังประกอบการงารอยู่ก็ดี ฤๅมิฉนั้นเห็นเปนการยุติธรรมในการที่จะให้บริษัทนั้นได้กลับคืนขึ้นทะเบียนก็ดี ท่านว่าศาลจะสั่งให้กลับจดชื่อบริษัทคืนเข้าสู่ทะเบียนก็ได้ และถ้าเช่นนั้นท่านให้ถือว่าบริษัทนั้นได้คงตั้งยืนยงตลอดมาเสมือนดังว่ามิได้มีการขีดชื่อออกเลย อนึ่งด้วยคำสั่งอันนั้นศาลจะสั่งและวางข้อกำหนดไว้เปนประการใด ๆ ตามที่เห็นเปนยุติธรรมด้วยก็ได้ เพื่อจัดให้บริษัทและบรรดาบุคคลอื่น ๆ เข้าสู่ฐานะอันใกล้ที่สุดกับฐานะเดิมเสมือนดังว่าบริษัทนั้นมิได้ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนเลย
《Genealogies》
- Draft of 1919: -
- Draft of April 1924: -
- Code of January 1929: 1246